แต่เพราะสมัยนี้เชื้อโรคมีการพัฒนาและปรับตัวเร็ว ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ในสภาพอากาศต่างๆ ได้นานขึ้น เมื่อโรคภัยใกล้ตัวกว่าที่คิด จึงเป็นหน้าที่ของเราผู้เป็นเจ้าของร่างกาย ในการดูแลตัวเองให้แข็งแรงพร้อมรับมือกับการพัฒนาของโรค หลายคนจึงตื่นตัวเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น แต่ท่ามกลางความตื่นตัวในการใส่ใจสุขภาพ
แม้ในผักจะอุดมไปด้วย คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ แต่การโหมทานแต่ผักอย่างเดียวจนเบียดเบียนอาหารประเภทอื่น ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ โดยเฉพาะโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานหลักของร่างกาย ดังนั้นหากอยากมีสุขภาพดีร่างกายแข็งแรง
หลายคนเชื่อว่าการออกกำลังกายหนักๆ เหงื่อออกมากๆ จะยิ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการออกกำลังกายที่มากเกินไป ร่างกายจะสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นถึง 20-30% ซึ่งโอเวอร์เกินที่ร่างกายจะกำจัดได้หมด ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อมเร็วขึ้นและเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้
การมีน้ำหนักที่สมส่วนจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น หลายคนจึงพยายามควบคุมอาหารและแคลอรีให้น้อยเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดที่ทำให้ร่างกายพังได้ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมตัวเอง การควบคุมอาหารที่ดีคือควรคำนวณแคลอรีที่จำเป็นต่อการเผาผลาญของร่างกายต่อวัน ผ่านค่า Basal Metabolic Rate (BMR) โดยมีสูตรดังนี้
ถึงแม้การลดการสังสรรค์จะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ ส่งเสริมให้ร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ลดความเสี่ยงและห่างไกลจากโรค แต่อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงของการเก็บตัวอาจสร้างภาวะเครียดให้เพิ่มขึ้น อนุมูลอิสระในร่างกายก็สูงขึ้นตามมา
เคล็ดลับความงามและการดูแลสุขภาพที่ดี มักมีเรื่องของการดื่มน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ คนที่มีสุขภาพผิวและร่างกายดี มักจะดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำที่มากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก
หลายคนรู้ว่าภาวะอ้วนเป็นศูนย์รวมของโรคต่างๆ จึงสรรหาวิธีลดความอ้วนเพื่อให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แต่การลดความอ้วนด้วยวิธีผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหาร ทานยาลดความอ้วน หรือการเลือกทานผิดวิธี สิ่งเหล่านี้เป็นผลให้ระบบเผาผลาญในร่างกายเสื่อม ซึ่งนอกจากน้ำหนักจะไม่ลดแล้ว ยังทำให้ร่างกายเสียสมดุลด้วย
ผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ในผลไม้เกือบทุกชนิดก็ยังแฝงไปด้วยน้ำตาลที่สูงมาก เทียบเท่ากับปริมาณช้อนชาตั้งแต่ 1-5 ช้อนชาทีเดียว ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินความจำเป็น